ชมรมสายสกุล ณ สงขลา
39·ซอยสวรรค์วิถี·ถนนสุทธิสารวินิจฉัย·แขวงสามเสนนอก
เขตห้วยขวาง·กรุงเทพฯ 10320
โทร 08-1483-0438

1 กุมภาพันธ์ 2560

เรียน ญาติ ณ สงขลาทุกสายสกุลที่รักและเคารพทุกท่าน

หนังสือเวียนฉบับที่ 1 ประจำปี  2560  มีข่าวคราวที่จะเรียนให้ญาติ ๆ ทราบ  ดังนี้

  1. พิธีกราบไหว้บรรพบุรุษที่สุสานตามประเพณีจีนหรือพิธีเช็งเม้ง  ซึ่งเป็นประเพณีที่ตระกูล ณ สงขลา  ได้ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน  โดยผู้ริเริ่มคือ  คุณอาเจริญจิตต์ ณ สงขลา  ในสมัยที่เป็นปลัดอำเภอเมืองสงขลา  คุณอาได้รับการบอกเล่าจากคุณสุชาติ  รัตนปราการ  ญาติผู้ใหญ่ของตระกูล ว่าคุณอาเป็นลูกหลานเจ้าเมืองสงขลาควรจะไปกราบไหว้ฮวงซุ้ยบรรพบุรุษบ่อยๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง  และความเจริญก้าวหน้าในชีวิตราชการ    คุณอาจึงนึกได้ว่า  “เราเป็นลูกหลานถ้ามีโอกาสทำบุญให้ปู่ย่าตาทวดบรรพบุรุษของเรา  ย่อมเท่ากับแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อท่าน  ก็จะเป็นบุญแก่ตัวเรา”  คุณอาจึงได้สอบถามจากคนจีนที่มีความรู้เรื่องกราบไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน  และได้จัดเตรียมอาหารคาวหวานไปกราบไหว้สุสานของพระยาสุวรรณคีรี (เหยี่ยง) บรรพบุรุษต้นสกุล ณ สงขลา และเจ้าเมืองสงขลาท่านอื่นๆ ในวันเช็งเม้ง โดย  คุณอาเจริญจิตต์ได้ตั้งอธิษฐานว่า  ถ้ามีบุญขอให้เป็นผู้ว่าสงขลากับเขาเหมือนบรรพบุรุษได้เป็นมาแล้ว  ขอเอาความซื่อสัตย์สุจริต  คิดดีทำดี  กล้าหาญ  เสียสละ  และอดทนมาเป็นหลัก  พร้อมกันกับความจงรักภักดีในพระมหากษัตริย์”  ซึ่งต่อมาคุณอาก็ได้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาสมดั่งคำอธิษฐาน  ในวันเช็งเม้งของทุกปีคุณอาได้พบกับญาติ ๆ คนอื่นมากราบไหว้เช่นกัน  โดยต่างคนต่างมา  คุณอาจึงบอกว่าในปีต่อไป  ขอให้นัดมาพร้อมๆ กัน  หลังจากนั้นจึงเกิดการรวมตัวกันมาทำบุญเช็งเม้งเป็นประจำ พอมาถึงยุค คุณอาชำนาญ  ณ สงขลา  ได้กำหนดให้วันเช็งเม้งของตระกูล ณ สงขลาเป็นวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมของทุกปี  เพื่อให้ญาติ ๆ ที่ขาดการติดต่อไประยะหนึ่ง หรือที่อยู่ต่างประเทศและประสงค์จะมาร่วมงาน สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้ง่ายขึ้น

          ในปีนี้ชมรมสายสกุล ณ สงขลาจะจัดทำบุญเช็งเม้งในวันอาทิตย์ที่  26  มีนาคม  2560  ณ สุสานตระกูล ณ สงขลา ต. หัวเขา  อ.สิงหนคร  จ. สงขลา  โดยมีกรอบของงาน  ดังนี้

 06.00 น.  ขอเชิญญาติๆ รับประทานอาหารเช้าที่สุสาน

07.00 น.  พระสงฆ์มาถึงปะรำพิธีและฉันเช้า

07.30 น.  พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์  ถวายสังฆทาน  กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษ  พระสงฆ์ประพรม

                น้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมพิธี

09.00 น.  ญาติ ๆ รวมตัวกันหน้าสุสานพระยาสุวรรณคีรีสมบัติ (เหยี่ยง  แซ่เฮา)  ต้นสกุล ณ สงขลา

09.15 น.  เจ้าศรีรัตน์ ณ ลำปาง  จุดธูปเทียนสักการะหน้าสุสานและกล่าวนำสดุดีบรรพบุรุษ

09.30 น.  ญาติ ๆ นำธูปเข้ากราบไหว้บรรพบุรุษ

10.00 น.  จุดประทัด  เสร็จพิธีไหว้บรรพบุรุษที่สุสานตามประเพณีจีนโบราณ

10.30 น.  ญาติ ๆ แยกย้ายกันไปทำบุญถวายสังฆทาน ณ วัดสุวรรณคีรีและวัดแจ้ง  วัดประจำตระกูล

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน  ณ  โรงแรมวีว่า  อ.เมือง  จ.สงขลา

14.30 น.  เลิกงาน

           อนึ่ง  ในวันเสาร์ที่ 25 มี.ค.60  เวลา 10.00 น. ทำพิธีสวดมนต์จีน  ณ สุสานพระยาสุวรรณคีรี (เหยี่ยง แซ่เฮา)  นำโดย  เจ้าศรีรัตน์ ณ ลำปาง  เป็นประธาน   หลังจากนั้นจะไปกราบไหว้พระยาวิเชียรคีรี (ชม)  ณ  โรงเรียนวิเชียรชม  และ จะไปกราบไหว้พระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร์)  ณ  สุสานสวนตูล  ตามลำดับ   ส่วนงานเลี้ยงสังสรรค์ในวันเสาร์จะมีหรือไม่ จะแจ้งให้ทราบต่อไป    ขอเรียนว่ากิจกรรมต่าง ๆ  ในวันเสาร์นี้  จัดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ  แต่ญาติ ๆ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตามอัธยาสัย  โดยขอให้ทุกท่านสวมเสื้อสีสุภาพ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย

  1. วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี  ถือเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยอีกวันหนึ่ง  เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  พระมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชจากพม่าให้แก่ประเทศไทย  และเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรีเพียงพระองค์เดียว ตลอดรัชสมัยของพระองค์  ได้ทรงทำสงครามกับพม่าถึง 9 ครั้งและทรงได้รับชัยชนะทุกครั้ง  รวมทั้งทรงทำศึกกับเขมร 3 ครั้ง  นอกจากการเมืองและการศึกสงครามแล้ว  พระองค์ยังทรงฟื้นฟูเศรษฐกิจ  การคมนาคม  การบำรุงการศึกษาตามวัด  การรวบรวมพระไตรปิฎก  รวมทั้งอัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางจากเวียงจันทร์  กลับมายังกรุงธนบุรี  บูรณะปฏิสังขรวัดวาอารามต่างๆ  ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์  ทรงนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ไว้ 4 ตอน  พระราชกรณียกิจดังกล่าวนี้ได้แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถรอบด้านของพระองค์  ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี  เป็นวัน  “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”  และถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”  เพื่อยกย่องพระองค์ให้เป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งชาติไทย  (ข้อมูลจากหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก  จันทบุรี)

           สืบเนื่องจากการที่พลเอกปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์  ได้กล่าวที่วัดสุทธิวรารามในงานทำบุญครบรอบวันพระราชทานนามสกุลเมื่อปีที่แล้วว่า  ตระกูล ณ สงขลาควรที่จะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช    ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายเหยี่ยง  แซ่เฮา ชาวจีนฮกเกี้ยน  เป็นนายอากรรังนกเกาะสี่เกาะห้า  และได้รับบรรดาศักดิ์เป็น  “หลวงอินทคีรีสมบัติ”  ต่อมาหลวงอินทคีรีสมบัติปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสามารถและซื่อสัตย์สุจริต  จึงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าเมืองสงขลา  มีบรรดาศักดิ์เป็น  “หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ”  ซึ่งนับได้ว่าเป็นเจ้าเมืองสงขลาคนที่ 1 ในสกุล ณ สงขลาและเป็นต้นสกุล ณ สงขลา  ต่อมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาสุวรรณคีรีสมบัติ” และในการพูดวันนั้น พลเอกปานเทพได้เชิญชวนญาติ ณ สงขลาให้ไปร่วมพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์พระบรมรูปของพระองค์ที่วัดเขาขุนพนม  อ. พรหมคีรี  จ.นครศรีธรรมราช  ในวันที่ 28 ธันวาคม 2559

         ดังนั้น  ในวันที่ 28 ธันวาคม 2559  จึงมีตัวแทนตระกูล ณ สงขลา  ประกอบด้วย   เจ้าอาศรีรัตน์ ณ ลำปาง   คุณรัตนา ณ สงขลา  อาจารย์ประกาย ณ สงขลา  คุณจุฑามาศ ณ สงขลา  คุณฐานเชฎฐ์ ณ สงขลา คุณอรุณี ณ สงขลา และผมได้ไปร่วมในพิธีดังกล่าว  โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นประธาน  และอาจารย์ประกาย ณ สงขลาเป็นผู้ดำเนินการพิธีพราหมณ์  ในการนี้  ตระกูล ณ สงขลาได้จัดทำพวงมาลาไปวางสักการะหน้าอนุสาวรีย์พระบรมรูปของพระองค์ด้วย

  1. พิธีบวงสรวงเมืองสิงหนคร  เนื่องจากเมืองสงขลาแบ่งออกเป็น 3 ยุค (ที่มา: แผนที่ตั้งเมืองโบราณสงขลา ของสำนักงานจังหวัดสงขลา) คือ เมืองสงขลาเชิงเขาแดง (พ.ศ.2156-2310)  เมืองสงขลาแหลมสน (พ.ศ.2310-2379)  และเมืองสงขลาบ่อยาง (พ.ศ.2379-ปัจจุบัน)  ในยุคเมืองสงขลาเชิงเขาแดง  เป็นยุคของท่านโมกอล  แขกเปอร์เซีย นัยว่าเป็นเจ้าเมืองสาเลห์ที่ชวา (บทความเรื่อง “สุลต่าน สุลัยมาน ชาห์” โดยจุลลดา ภักดีภูมินทร์) ได้อพยพครอบครัวและบริวารมาขึ้นบก และตั้งรกรากที่บริเวณริมเขาแดง  ต่อมาสุลต่าน สุลัยมาน บุตรของท่านโมกอลได้ปกครองเมืองและประกาศให้เมืองสงขลาเป็นเอกราช เป็นรัฐอิสระในปี พ.ศ.2185  แต่ถูกกองทัพของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชยกมาตีแตกในปี พ.ศ.2223 และเมืองสงขลาถูกเผาจนเป็นเมืองร้าง จึงได้ย้ายเมืองมาตั้งที่ฝั่งแหลมสน ใกล้ๆ กับวัดสุวรรณคีรี เรียกว่า “เมืองสงขลาแหลมสน” สงขลาในยุคนี้เป็นยุคของ พระยาสุวรรณคีรีสมบัติ (เหยี่ยง แซ่เฮา)”  ต้นสกุล ณ สงขลา ปกครองเมือง จนถึงสมัยพระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) จึงได้ย้ายเมืองสงขลามาตั้ง ณ ฝั่งบ่อยาง สงขลาบ่อยางเป็นยุคของเจ้าเมืองสงขลา ในสกุล ณ สงขลา คือ ตั้งแต่พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) จนถึง พระยาวิเชียรคีรี(ชม)  สงขลาบ่อยางก็คือจังหวัดสงขลาในปัจจุบัน ส่วนสงขลาเชิงเขาแดงและสงขลาแหลมสนก็คือ อำเภอสิงหนครในปัจจุบัน  ดังนั้น  การสมโภชน์เมืองสิงหนครเมื่อวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2559  ซึ่งจัดโดย   เทศบาลเมืองสิงหนคร  และ   คุณธนกร สังฆโร นายกเทศมนตรี จึงเป็นการบวงสรวงดวงเมือง  เจ้าเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง

          พิธีบวงสรวงเริ่มในวันที่ 30 ก.ค.59  ด้วยการทำบุญตักบาตรตอนเช้าที่วัดสุวรรณคีรี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่ พระแม่ธรณี พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง ตามด้วยการถวายสังฆทาน เลี้ยงพระเพลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษตระกูล ณ สงขลา  ตอนบ่ายทำพิธีที่สุสานพระยาสุวรรณคีรี (เหยี่ยง) โดยมีขบวนสิงห์โตเชิดหน้าสุสาน  เพื่อเป็นการบอกกล่าวว่า  วันนี้ลูกหลานมาขออนุญาตนำป้ายวิญญาณของท่านไปทำพิธีบวงสรวง  ต่อจากนั้นลูกหลานในสกุล ณ สงขลาได้เดินทางไปยังบ้านที่เก็บป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษตระกูล ณ สงขลา  เพื่ออัญเชิญป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษทั้งหมดมาร่วมในพิธี  โดยมีขบวนสิงห์โตเชิดนำขบวน จนถึงปะรำพิธีบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสิงหนคร  หลังจากนั้นก็มีพิธีพราหมณ์โดย อาจารย์ประกาย ณ สงขลา  และพระสงฆ์สวดมหามงคลและชัยมงคล  โดยมี เจ้าอาศรีรัตน์ ณ ลำปาง รองประธานตระกูล ณ สงขลา  เป็นประธานในพิธี

           ส่วนในวันที่ 31 ก.ค.59  เป็นพิธีบวงสรวงเทพเทวดา เจ้าเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธี  และผู้ดำเนินพิธีบวงสรวงก็คือ อาจารย์ ประกาย ณ สงขลา   ตลอดจนมีพิธีสงฆ์ประกอบด้วย   ลูกหลานในสกุล    ณ สงขลา นำโดยเจ้าอาศรีรัตน์ ณ ลำปาง เข้าร่วมในพิธีทั้งสองวันเป็นจำนวนมาก

  1. ข่าวสังคม ณ สงขลา.....@ ข่าวเศร้า  คุณเนาวรัตน์  (โรจนะหัสดิน) เข็มทอง  ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2560  อายุ 73 ปี  ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดลาดพร้าว  มีการสวดพระอภิธรรมในวันที่  12-16 มกราคม 2560  และฌาปนกิจศพเมื่อวันที่  17 มกราคม 2560  เวลา 15.00 น.  คุณเนาวรัตน์เป็นผู้ที่มีความรักญาติพี่น้องมาก  จึงทำข้าวยำปักษ์ใต้มาเลี้ยงญาติ ๆ ในวันรวมญาติเป็นประจำทุกปี  ขอให้ผลบุญกุศลที่คุณเนาวรัตน์ทำไว้ได้นำคุณเนาวรัตน์ไปสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ

          สุดท้ายนี้  ผมขอเรียนเชิญญาติ ณ สงขลาทุกท่านเข้าร่วมงานบุญเช็งเม้งหรือพิธีคารวะบรรพบุรุษตระกูล ณ สงขลา ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2560 ณ สุสานเจ้าเมืองสงขลา  ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ตามกรอบของงานดังกล่าวข้างต้น  เพื่อแสดงความเคารพ  ความกตัญญูต่อบรรพบุรุษของเราที่ล่วงลับไปแล้ว  รวมทั้งเป็นการทำความสะอาดสุสานบรรพบุรุษเจ้าเมืองสงขลาอีกด้วย

ด้วยความรักและเคารพ 

ดร.เวคิน สุวรรณคีรี 

รองประธานตระกูล ณ สงขลา

 

Back to Top