ชมรมสายสกุล ณ สงขลา
39·ซอยสวรรค์วิถี·ถนนสุทธิสารวินิจฉัย·แขวงสามเสนนอก
เขตห้วยขวาง·กรุงเทพฯ 10320
โทร 0-2274-7619·โทรสาร·0-2693-4879
14 กันยายน·2555
เรียน···ญาติ ณ สงขลาที่รักและเคารพ
หนังสือเวียนฉบับที่ 4 ประจำปี 2555· มีข่าวคราวที่จะเรียนให้ญาติๆทราบดังนี้
1. บทอาศิรวาท ในศุภวาระมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2555
อาราธน์ ฤทธิ์ทั่วฟ้า ปฐพิน
ทวยเทพ อาทิอินทร์ ปิ่นเจ้า
พระไตรรัตน บดินทร์ เดชเด่น
โปรดพิทักษ์ พระแม่ท้าว จอมไท้ ทุกสถาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ตระกูล ณ สงขลาทุกสายสกุล
(เวคิน สุวรรณคีรี ร้อยกรอง)
2. การทำบุญครบรอบ 99 ปีวันพระราชทานนามสกุล ณ สงขลา ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.55 ณ วัดสุทธิวราราม
ยานนาวา กรุงเทพมหานคร เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษตระกูล ณ สงขลา ที่ได้ทำคุณงามความดีไว้ให้แก่ประเทศชาติและในการก่อร่างสร้างตระกูลจนมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป รวมทั้งอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติ ณ สงขลาทุกท่านที่ล่วงลับไปแล้ว มีญาติๆ มาร่วมงานประมาณ 100 คน โดยต่างทยอยกันมาตั้งแต่เช้า จนถึงเวลาประมาณ 10.30 น.พิธีได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยผมในฐานะประธานกรรมการบริหารชมรมสายสกุล ณ สงขลา ได้จุดธูปเทียนหน้าพระประธานในโบสก์ ต่อด้วยจุดธูปเทียนหน้าสถานที่บรรจุอัฐิเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ(จิตร ณ สงขลา) และหน้าสถานที่บรรจุอัฐิพระยาพิจารณาปฤชามาตย์(สุหร่าย วัชราภัย) หลังจากนั้นพระสงฆ์จำนวน 10 รูปสวดเจริญพระพุทธมนต์ โดยมีพระมหา ดร.สุทิตย์ อาภากโร รองเจ้าอาวาส รักษาการเจ้าอาวาสวัดสุทธิวรารามเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เมื่อสวดจบ ได้ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ทั้งวัด ต่อจากนั้น ประธานฝ่ายสงฆ์ได้กล่าวให้โอวาทแก่ญาติๆ มีใจความพอสรุปได้ดังนี้
“วัดสุทธิวรารามเดิมชื่อวัดลาว ต่อมาท่านผู้หญิงสุทธิ์ ภริยาเจ้าพระยาวิเชียรคีรี(เม่น) มีจิตศรัทธาแรงกล้า ได้บูรณะ
สร้างโบสก์ขึ้นใหม่ และนำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก็เปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดสุทธิ วราราม” ตามนามของท่านผู้หญิงสุทธิ์ จึงเป็นการพระราชทานชื่อวัดมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 แล้ว ต่อมาถึงรัชกาลที่ 6 ลูกหลานท่านปั้นได้สร้างโรงเรียนวัดสุทธิวรารามขึ้นบนที่ดินที่ท่านปั้นได้ยกให้แก่วัด จนได้รับพระราชดำรัสชมเชยว่าเป็นตัวอย่างของการบำเพ็ญกุศลที่ต้องพระราชนิยมเป็นอย่างยิ่ง แต่ที่สำคัญก็คือ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2511 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จพระราชดำเนินมาถวายผ้าพระกฐินหลวง ณ วัดสุทธิวราราม อาตมาเชื่อว่า การที่ในหลวงเสด็จวัดสุทธิวรารามในครั้งนั้น เพราะเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ(จิตร ณ สงขลา) ได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้กราบบังคมทูลเชิญในหลวงมาถวายผ้าพระกฐินหลวงที่วัดสุทธิวราราม โดยปกติแล้ว ในหลวงจะเสด็จถวายผ้าพระกฐินเฉพาะวัดหลวง เช่น วัดโพธิ์ วัดอรุณราชวราราม วัดมหาธาตุ เป็นต้น ซึ่งเป็นวัดใหญ่ ดังนั้น การเสด็จมาวัดสุทธิวรารามในครั้งนั้น จึงเป็นเรื่องไม่ธรรมดา ต้องบอกว่าตระกูล ณ สงขลาและตระกูลที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันทำนุบำรุงวัดสุทธิฯ มาตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้น คุณงามความดีที่ตระกูล ณ สงขลาได้สร้างไว้ให้แก่วัดสุทธิฯ และประเทศชาตินั้นถือว่ายิ่งใหญ่มาก และขอให้ตระกูล ณ สงขลาอย่าได้ทอดทิ้งวัดสุทธิฯ วันนี้พวกท่านทั้งหลายได้มารำลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษ แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูล ความยิ่งใหญ่ของตระกูลไม่ได้เกิดจากการมีลูกหลานเยอะ แต่ยิ่งใหญ่ด้วยคุณงามความดี ด้วยการสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้คนในสังคม ด้วยการถวายอุทิศศรัทธาความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ตระกูล ณ สงขลาเป็นดั่งอัญมณีในท่ามกลางตระกูลอื่นๆ ของประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญต่อบ้านเมือง บรรพบุรุษของท่านได้สร้างคุณงามความดีเอาไว้ และวันนี้ท่านทั้งหลายยังได้สืบทอดเจตนารมย์ของบรรพบุรุษต่อมา อาตมาในฐานะพระสงฆ์ขอชื่นชมอนุโมทนาในกุศลเจตนาของท่านทั้งหลายที่ได้ร่วมกันสืบทอดเจตนารมย์ของบรรพบุรุษไว้ให้แก่ลูกหลานของท่านในอนาคต ในท้ายที่สุด ขออ้างอิงคุณพระศรีรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมทั้งคุณงามความดีที่ท่านทั้งหลายได้ทำในวันนี้ จงเป็นพุทธปัจจัยเสริมส่งให้ท่านทั้งหลาย จงมีความสุข ความเจริญ คิดสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้น และประสบความสำเร็จในทุกทิวาราตรีด้วยเทอญ”
ต่อจากนั้นเป็นการถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระภิกษุสงฆ์ และทำพิธีกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษตระกูล ณ สงขลาทุกสายสกุลและให้แก่ญาติๆ ที่ล่วงลับไปแล้วทุกท่าน เป็นอันเสร็จพิธีสงฆ์ ญาติๆ จึงได้รับประทานอาหารร่วมกัน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับในเวลาประมาณ 13.30 น.
3. บัญชีรับจ่ายงานทำบุญ 99 ปีวันพระราชทานนามสกุล ณ สงขลา เมื่อวันที่ 1 ก.ค.55 ณ วัดสุทธิวราราม จัดทำโดยคุณณัฐ จารุจินดา
3.1 รายรับ เงินบริจาคจากญาติ (คลิ๊กดูรายละเอียดจากเอกสารแนบ) 144,500.00
3.2 รายจ่าย
เงินถวายพระ 25 รูป 10,000.00
เงินถวายบำรุงวัด 10,000.00
ค่าย่าม/ตาลปัตร 5,800.00
ค่าเครื่องสังฆทาน 4,500.00
ค่าอาหารเลี้ยงพระและญาติๆ 32,400.00
ข้าวมันไก่ 6,500.00
เงินรางวัลวงดนตรีไทยโรงเรียนวัดสุทธิวราราม 3,000.00
ค่าถ่ายรูป 3,000.00
ค่าดอกไม้ถวายพระ 2,500.00
ค่าน้ำ 2,000.00
รวมค่าใช้จ่าย 79,700.00
เงินเหลือเข้ากองทุนตระกูล ณ สงขลา 64,800.00
ผมขอถือโอกาสนี้ ขอบพระคุณญาติๆ ทุกท่านที่ได้บริจาคเงิน สิ่งของ อาหาร รวมทั้งที่เสียสละเวลา แรงกาย ร่วมทำบุญในครั้งนี้ หากญาติท่านใดรายชื่อตกหล่น กรุณาแจ้งให้ผมทราบด้วย จะขอบพระคุณยิ่ง
4. พิธีเปิดอนุสาวรีย์พระยาวิเชียรคีรี (ชม) เมื่อวันที่ 3 ก.ย.55 โรงเรียนวิเชียรชม จังหวัดสงขลา ได้จัดงาน “90 ปีวิเชียรชม สั่งสมคุณภาพสู่สากล” โดยมีคณะครู ผู้บริหาร และนักเรียนจากเครือข่ายประเทศมาเลเซีย ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศไทย รวมทั้งคระครู ผู้บริหาร และนักเรียนจากโรงเรียนวิเชียรชม เจ้าภาพ เข้าร่วมงาน กิจกรรมหลักของวันเปิดงานก็คือ การเดิน-วิ่งการกุศลของเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนวิเชียรชม ในเวลา 5.30 น. ต่อด้วยพิธีเปิดงาน “90 ปีวิเชียรชม สั่งสมคุณภาพสู่สากล” ในเวลา 8.30 น. และพิธีเปิดอนุสาวรีย์พระยาวิเชียรคีรี (ชม) ในเวลา 8.45 น. โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
คุณกฤษฏา บุญราช หลังจากนั้นก็เป็นการแข่งขันทักษะทางวิชาการและการแสดงสุนทรพจน์ของนักเรียนจากประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
มีญาติ ณ สงขลาเข้าร่วมงานหลายท่าน อาทิ เช่น เจ้าเดชา ณ ลำปาง เจ้าศรีรัตน์ ณ ลำปาง ผศ. มยุรี- อ. เฉลิม เลื่อนราม คุณศุพัจไฉน คุณพัชรินทร์ คุณลักษมี คุณชัยยุทธ คุณชูศักดิ์ ณ สงขลา พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ นิตยวิมล และผม เป็นต้น
5. ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากปีนี้เป็นปีมหามงคลอีกปีหนึ่ง เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ตระกูล ณ สงขลาจึงมีความประสงค์ที่จะร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยจะร่วมกันปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นการสนองต่อกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันก็จะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันก็จะสร้างป่า” พวกเราในฐานะที่เป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน จึงสมควรที่จะเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ด้วยการสานต่อพระราชกรณียกิจของพระองค์ให้ดำรงไว้
ในปีนี้เราจะไปปลูกป่ากันในวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2555 ที่โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเขาชะงุ้ม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับการน้อมเกล้าถวายที่ดินจำนวนประมาณ 700 ไร่จากพลตำรวจตรีทักษ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ซึ่งแต่เดิมทำเป็นฟาร์มปศุสัตว์และปลูกพืชไร่ มีการใช้ที่ดินอย่างผิดวิธี ทำให้หน้าดินเสียหาย ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ เกิดสภาพความแห้งแล้งโดยทั่วไปจนไม่สามารถปลูกพืชหรือผลผลิตลดลง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร จึงได้พระราชทานพระราชดำริในการปรับปรุงที่ดินเสื่อมโทรมแห่งนี้ ให้กลับมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถใช้ในการเพาะปลูกได้ รวมทั้งทรงยังแนะนำให้ปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานพระราชทานพระราชดำริในการปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2526 หน่วยงานต่างๆ ได้สนองพระราชดำริด้วยการศึกษาทดลอง เพื่อหาวิธีการปรับปรุงดินในพื้นที่ ให้กลับนำมาใช้ประโยชน์ในการเกษตรได้อีก และเป็นแนวทางในการปรับปรุงดินให้แก่ราษฎรที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ตลอดจนเป็นรูปแบบสำหรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ซึ่งมีปัญหาคล้ายๆ กับที่ดินแปลงนี้
รายละเอียดของการเดินทาง
7.00 น. พร้อมกัน ณ ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 หน้าสวนลุมพินี ถนนราชดำริ
7.30 น. ออกเดินทาง
10.30 น. ถึงสถานที่ปลูกป่า
11.00 น. ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวรายงาน
- ประธานกล่าวเปิดงาน
- ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 80 ต้น
12.00 น. รับประทานอาหารร่วมกัน
13.00 น. เดินทางกลับ อาจจะแวะเที่ยวสถานที่ต่างๆ บนเส้นทางกลับ
19.00 น. ถึงกรุงเทพมหานคร
ขอเรียนเชิญญาติ ณ สงขลาทุกสายสกุล เข้าร่วมในโครงการมหากุศลครั้งนี้ด้วย โดยจะขอรับบริจาคเงินจากญาติ
ที่จะร่วมเดินทางไปปลูกป่าคนละ 1,000 บาท เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่าย เช่น ค่ารถ ค่าต้นไม้ ค่าอาหาร เป็นต้น ส่วนญาติๆ ที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมปลูกป่าได้ บริจาคได้ตามอัธยาศัย โดยผมจะทำการปลูกต้นไม้ให้แทนในนามของท่านนะครับ ท่านใดประสงค์จะเข้าร่วมโครงการปลูกป่าในครั้งนี้ กรุณาโอนเงินเข้าบัญชี “ตระกูล ณ สงขลา” ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 001-7-77706-1 ภายในวันที่ 12 ตุลาคม 2555 และแจ้งรายละเอียดให้ผมทราบที่ 08-1483-0438 ด้วยจะขอบพระคุณมาก
6. ข่าวสังคม ณ สงขลา.......
** 4 ก.ย.55 วันคล้ายวันครบรอบวันเกิดปีที่ 95 ของคุณป้าสมศรี อังสุวัฒนะ และ 18 ก.ย. 55 วันคล้ายวันครบรอบวันเกิดปีที่ 85 ของคุณอาสายจิตร กฤษณามระ ญาติผู้ใหญ่ที่พวกเราทุกคนเคารพรัก ผมในนามของญาติ ณ สงขลาทุกสายสกุล ขออารธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงดลบันดาลประทานพรให้คุณป้าและคุณอามีความสุข สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง คิดสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้นสมความปรารถนา และอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของตระกูล ณ สงขลาไปตราบนานเท่านาน..........
** หัวเรี่ยวหัวแรงที่สำคัญในการจัดงานปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติของตระกูล ณ สงขลาในปีนี้ คงจะหนีไม่พ้นท่านอธิบดีกรมการข้าวคนขยัน คุณชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อีกเช่นเคย เพราะปีที่แล้วท่านได้ฝากฝีมือไว้จนเป็นที่ประทับใจของญาติๆ ณ สงขลาหลายคน ในปีนี้ญาติๆ จึงเรียกร้องให้จัดปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติอีก ขอบคุณมากนะครับท่านอธิบดีที่ได้ช่วยเหลืออีกในปีนี้.........
** ขอแสดงความยินดีต่อ ศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “ประธานแผนกศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสถาน คุณถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ได้รับรางวัลครุฑทองคำ จากท่านรองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ และพ.ท.ดร.มนต์ธกิตติ์ รูปขจร ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกทางรัฐศาสตร์การปกครอง สาขาก่อการร้ายสากล จากประเทศอังกฤษ........
** ขอขอบพระคุณเจ้าป้า ปาริชาติ ณ สงขลา และพี่ๆ น้องๆ ที่ได้ขนมหวานจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาร่วมทำบุญ 99 ปีวันพระราชทานนามสกุลที่วัดสุทธิวรารามด้วยนะครับ.........
** ข่าวเศร้า คุณศรีธร ไกรฤกษ์ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 20 ส.ค.55 ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม กทม. จนถึงวันที่ 24 ส.ค. และฌาปนกิจวันที่ 27 ส.ค. และคุณเจริญสุข ณ สงขลา ได้ถึงแก่กรรม และตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดโสมนัสราชวรวิหาร ในวันที่ 3-8 ก.ย.ฌาปนกิจ วันที่ 9 ก.ย. ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งผลบุญกุศลและคุณงามความดีที่ท่านทั้งสองได้ทำไว้ จงนำท่านไปสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ
วันนี้ขอจบข่าวเพียงเท่านี้นะครับ
ด้วยความรักและเคารพ
(เวคิน สุวรรณคีรี)
ประธานกรรมการบริหารชมรมสายสกุล ณ สงขลา